จับมือ ปศท. ทลายแหล่งค้าตลับลูกปืนปลอมรอบสอง ย่านลำลูกกา มูลค่าความเสียหายกว่า 7 แสนบาท
เผยเริ่มระบาดมากกว่าครึ่งปี ซ้ำปลอมแปลงใกล้เคียงขึ้น กระทบความปลอดภัยของผู้บริโภคทั้งชีวิต
และทรัพย์สิน ย้ำไม่มีการประนีประนอมผู้กระทำผิดแน่นอน....
แหล่งข่าวกฎหมายของกลุ่มบริษัท SFK ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืนและชุดตลับลูกปืน
ตราสินค้า "SKF" กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ SKF ได้ประสานงานกับกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) เข้าจับกุมผู้จำหน่ายตลับลูกปืนและชุดตลับลูกปืนปลอม
เครื่องหมายการค้า "SKF" 2 รายใหญ่ ย่านลำลูกกา จังหวัด ปทุมธานี มูลค่าความเสียหายกว่า 7 แสนบาท โดยก่อนหน้านี้ได้มีการปราบปรามไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงต้นปี 2550 ที่ผ่านมา เนื่องจาก SKF
ประกาศที่จะดำเนินคดีกับผู้ปลอมแปลงสินค้าหรือเครื่องหมายการค้าอย่างจริงจัง
ผู้แทน กลุ่มบริษัท SKF กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายปราบปรามและไม่ประนีประนอมต่อผู้กระทำความผิด
ในเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะเห็นว่านอกจากจะกระทบต่อธุรกิจโดยตรงแล้วการจำหน่ายสินค้าปลอมที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐานยังเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภคด้วย โดยเฉพาะตลับลูกปืนปลอมที่พบว่ามีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานมากเมื่อนำไปใช้ก็จะทำให้อายุเครื่องจักรสั้นลง และเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้ใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้พยายามให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคในการสังเกตบรรจุภัณฑ์ รายละเอียด คุณภาพและลักษณะสำคัญของสินค้าของแท้ แต่ขณะเดียวกันการปลอมแปลงสินค้าก็ทำได้ไกล้เคียงของจริงมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย
"สำหรับเบาะแสเกี่ยวกับการปลอมแปลงตราสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืนและชุดตลับลูกปืนนั้น มีมาประมาณ 7 เดือนแล้ว โดยเชื่อว่าสินค้าปลอมส่วนใหญ่นำเข้ามาจากต่างประเทศในลักษณะตลับลูก
ปืนเปล่า ทำให้ยากแก่การตรวจสอบ จากนั้นจึงปลอมแปลงตราสินค้ารวมทั้งข้อมูลผลิตภัณฑ์และบรรจุ
กล่องในประเทศ ทั้งนี้ ในต่างประเทศ ทั้งนี้ ในต่างประเทศประเทศประเมินว่าการใช้ชิ้นส่วนหรืออะไหล่ปลอมก่อให้เกิดอุบัติเหตุถึง 3500 ครั้งต่อปี สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นมูลค่านับแสนล้านบาท
สำหรับประเทศไทยนั้นในภาพรวมของอุตาสาหกรรมอะไหล่เครื่องจักรกลและรถยนต์ทั้งจากยุโรปและ
ญี่ปุ่นต่างประสบปัญหาเช่นเดียวกัน แต่อาจยังไม่มีตัวเลขเชิงธุรกิจแน่ชัด จึงไม่สามารถระบุได้ว่า
ความเสียหายในอุสาหกรรมมีมากน้อยเพียงใด หากสิ่งที่กระทบรุนแรงละน่าเป็นห่วงที่สุดในขณะนี้ก็คือ
ความปลอดภัยของผู้บริโภค" แหล่งข่าวจาก กลุ่มบริษัท SKF กล่าว
CREDIT BY: http://www.newswit.com/biz/2007-09-12/0451-f8dd40b50d1657fe469c63c808a/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น